ในยุคที่คนไม่ทน ! HR ยุคใหม่จะจัดการอย่างไร

2025.8.15

รู้สึกมั้ย ว่าเวลารับสมัครพนักงานใหม่ กรองเรซูเม่แต่ละที ทำไมเรซูเม่ของน้องๆรุ่นใหม่ “มันดูเยอะแบบแปลกๆ” บางคนที่งาน2-3 เดือนก็ย้ายที่ใหม่ ทำได้อีก1เดือนก็เปลี่ยนงานไปอีกที่ อีกที่นึงก็ทำได้แค่1ปีแล้วลาออก ??

เรซูเม่แบบนี้ นับวันยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ บุคลากรที่มีคุณภาพก็หายากเหลือเกิน

HR จะทำยังไงดี

คำถามนี้น่าสนใจและสะท้อนปัญหาจริงในภาคธุรกิจยุคปัจจุบันค่ะ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการรับคนทำงานที่ “เคยเปลี่ยนงานบ่อย” หรือ “มีประวัติอยู่ไม่ครบโปร หรือ ไม่ผ่านโปร”  บริษัทควร “รับ” หรือ “เลี่ยง”?

ลองคิดถึง”เหตุผลที่คนเจนใหม่เปลี่ยนงานเร็ว”

แม้จะดูไม่ดีในสายตานายจ้าง แต่ตอนนี้ก็ต้องเข้าใจว่าแนวคิดระหว่างเจน ไม่เหมือนกัน

  • คนรุ่นใหม่เติบโตมากับความคาดหวังเรื่อง “งานที่ใช่” และ “ไม่ทนอยู่กับที่” บางคนก็ต้องการเปลี่ยนงานใหม่เพื่ออัพเงินเดือน
  • องค์กรไม่มี onboarding / training ที่ดี ทำให้คนลาออกก่อนเข้าใจระบบ องค์กรขนาดเล็กหรือกลางหลายแห่ง “ไม่มีฝ่ายHRโดยเฉพาะ” หรือ “ไม่มีผู้รับผิดชอบการสอนงาน”เต็มเวลา นันคือ การโยนพนักงานใหม่เข้าไปในระบบ แล้วดูว่าเขาจะปรับตัวอย่างไร
    แต่สิ่งที่อย่างน้อยต้องมี คือการมีเมนเทอร์(ผู้ให้ให้ความรู้เมื่อไม่เข้าใจ) , Timeline ในการเรียนงาน และมีการฟีตแบคไปกลับทั้งจากตัวพนักงานและหัวหน้างาน
    ด้านพนักงานเองก็ต้อง “ขวนขวาย” เป็นนิสัย ถามอย่างฉลาด จดจำให้แม่น ขอFeedback และ ลองก่อนถาม เพราะการรอคำสั่ง/รอให้สอนทีละขั้น อาจเหมาะกับงานระดับปฏิบัติการ แต่จะเป็นภาระสำหรับทีมในองค์กรเล็กมาก
  • ลักษณะงานไม่ตรงกับที่ตกลงกันไว้ จากตอนแรกในห้องสัมภาษณ์จะได้ใส่หมวกใบเดียว ไปๆมาๆก็ได้ใส่หมวกหลากสีแล้ว
  • บางราย “รับงานแก้ขัด” ระหว่างรอที่อื่น จึงลาออกเมื่อได้งานใหม่

ไม่ใช่ทุกคนที่ลาออกเร็วจะ “ไม่มีวินัย” บางคนมีศักยภาพ เพียงแต่เจอที่ไม่เหมาะ

กลับมาที่คำถาม แล้วHR ควรทำยังไง ควรรับคนแบบนี้ไหม

ต้องวัดกันที่

ทัศนคติและความโปร่งใสตอนสัมภาษณ์: คนที่กล้าเล่าตรง ๆ ว่าเคยลาออกเร็วเพราะอะไร (และเรียนรู้อะไรจากมัน) มักน่าลองเปิดใจให้

ทักษะเฉพาะทางหรือ soft skills: บางตำแหน่งเน้นผลลัพธ์มากกว่าความสม่ำเสมอ

แรงจูงใจในปัจจุบัน: ถ้าตอนนี้เขาเลือกองค์กรคุณด้วยความเข้าใจและ commitment ที่ชัด อาจดีกว่าคนที่อยู่ครบโปรฯ แต่หมดไฟ

แต่ต้องระวังคนที่มีพฤติกรรมซ้ำซ้อน เปลี่ยนงานบ่อยโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน
และถ้าองค์กรต้องการคนอยู่นานๆ การturnoverบ่อยจะส่งผลต่อสภาพจิตใจทีม และต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการฝึกสอน ทั้งที่เป็นแรงเงินและแรงคนด้วย

ในส่วนของการลดTurnover rate ระบบของเราอาจจะช่วยโดยตรงไม่ได้ แต่ช่วยทางอ้อมได้นะ KING OF TIME ระบบการจัดการเวลาจากประเทศญี่ปุ่น รู้หมด ใครมาสายกี่วันกี่ชัวโมง วันลาใช้ไปเยอะกันเท่าไหร่ ดูแนวโน้มและคาดการณ์คนที่อาจจะลาออกได้จ้า ทดลองใช้ฟรีได้30วันน้า


#HR #จ้างงาน #ลาออก #ฝ่ายบุคคล #หางาน